วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ธงสีรุ้ง(สัญญลักณ์ของชาวรักร่วมเพศ)

ก่อนอื่นผมขอเขียนอะไรสักนิดหนึ่งในหัวข้อที่ตั้งไว้ สีรุ้ง ทำไมเขาถึงใช้สีนี้ผมมีโอกาสอ่านเล่มเดิมที่ผมอ่านนั้นแหละผมจะเริ่มเลยแล้วกัน เป็นสัญญล้กษณ์สีล่าสุดของคนรักเพศเดียวกันทั้งเลสเบี้ยน และ เกย์ (หลังจากที่เคยเปลี่ยนมาหลายสี ตามความเปลี่ยนแปลงของสังคม) แรกเริ่มแต่เดีมนั้น คือในสมัยวิคตอเรียนของอังกฤษ สีที่เป็นสัญญลักษณ์ของชาวหญิงรักหญิงและชายรักชาย ก็คือสีเขียว ต่อมาเปลี่ยนมาใช้สีม่วงแทน ซึ่งเป็นสีที่มาจากป้ายผ้าที่ทหารนาซีใช้ติดแขวนเสื้อคนรักเพศเดียวกัน ในค่ายกักกัน เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่2(ส่วนชาวยิว และกลุ่มคนอื่นๆที่ไม่ใช่อรายัน ก็จะใช้สีอื่นๆติดแทน แบ่งเป็น หมวดหมู่ไป) แต่กาลต่อมา ประมาณปี1978 ศิลปินชาวเกย์ในชานฟานซิสโก นามว่านายกิลเบิร์ต เบเกอร์ ทนเสียงเรียกร้องของเพื่อนๆนักกิจกรรมทางสังคมที่ต้องการมีสัญญลักษณ์ของตัวเองไม่ไหว จึงลงมือตัดเย็บ ย้อมสี ประดิษฐธงสีรุ้งขึ้นมาครั้งแรกนั้นมีด้วยกันถึง8สีและแต่ละสีก็มีความหมายดังนี้ คือ สีชมพู่ หมายถึงเรี่องเพศ สีแดง หมายถึงชีวิต


สีส้ม หมายถึงการเยียวยา สีเหลือง คือพระอาทิตย์ สีเขียว คือธรรมชาติ สีฟ้า คือศิลปะ สีคราม แทนความผสาน และกลมกลืนและสีสุดท้ายคือ สีม่วงแทนจิตวิญญาณของคนรักเพศเดียวกัน หลังจากทำธงผืนนี้เสร็จก็เป็นที่ถูกอกถูกใจชาวเลสเบี้ยนและเกย์ แถบชานฟานฯเป็นอย่างมากใครๆก็อยากได้ไปเก็บไว้ที่บ้านบ้าง สีม่วง นี้เริ่มใช้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวครั้งแรกในยุค60 ซึ่งเป็นช่วงหลังเหตุการณ์สโตนวอลล์(สโตนวอลล์เป็นชื่อบาร์เกย์ที่ตำรวจเข้าไปตรวจตราและทำร้ายทอมคนหนึ่งทำให้ชาวรักเพศเดียวกันที่อยู่ในนั้นไม่พอใจตำรวจทำรุนแรงเกินกว่าเหตุจึงลุกขึ้นมาต่อสู้และได้รับชัยชนะในที่สุด อันเป็นที่มาของเหตุการณ์สโตนวอลล์)แต่มาฮิตจริงๆในยุค80ฮิตทั้งในหมู่รักเพศเดียวกันเอง และประชาชนทั่วไปก็เข้าใจความหมายของสีเป็นอย่างดีว่าเป็นสีของชาวโฮโมเซ็คชวลนายเบเกอร์ก็จึงได้ติดต่อบริษัททำธงให้ผลีตออกมาให้หน่อยเพื่อที่มันจะแพร่กระจายไปใน ชาวรักเพศเดียวกันเยอะๆแต่ปรากฎว่าบริษัททำธงไม่สามารถผลิตสีชมพู่ได้จึงมาต่อรองขอตัดออกนายเบเกอร์ก็ยอมตามบริษัททำธงขอมาแต่ธงธงสีรุ้งได้เผยแพร่อย่างเป็นทางการในงานเดินขบวนของชาวเกย์ที่จัดเพื่อระรึกถึงนาย นายฮารวีร์ มิลค์ เกย์นักการเมืองชื่อดังที่ถูกฆาตกรรมและคณะกรรมการงานพาเหรด เกย์ (gay pride)แต่มีมติตัดสีครามออกจนไดรับความนิยมจนถึงเดียวนี้ เอาแค่นี้แล้วกันถ้าสนใจแล้วผมจะเขียนให้อ่านกันใหม่แล้วกัน เรื่องหน้าพบกับเสียงและภาพ

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

อยากทราบชื่อหนังสือคะ